ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบแก๊งลักลอบขนต่างด้าวกลางถนนมิตรภาพ
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.รรท.ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง.ผบก.ป. ช่วยราชการ รอง ผบก.ทล.,
พ.ต.อ.สุมรภูมิ ไทยเขียว รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี
ผกก.1 บก.ทล., พ.ต.ท.ธัช โพธิ์สุวรรณ, พ.ต.ท.นาวิน คงสว่าง รอง.ผกก.1 บก.ทล., พ.ต.ต.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) นำโดย ร.ต.อ.เอกชัย ขุมเพ็ชร, ร.ต.อ.เชาวลิต สีดำ รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล., ร.ต.ท.ประธาน จตุพันธ์, ร.ต.ท.ธีระยุทธ วันโสภา รอง สว.( ป) ส.ทล.1 กก.1บก.ทล., ด.ต.สมศักดิ์ จันทาทอง, ด.ต.วิชัย ตามสมัย, ด.ต.ยศภัทร อินต๊ะ ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.1บก.ทล.
ร่วมกันจับกุม
1.นายพงษ์เพชรฯ อายุ 42 ปี (ผู้ขับขี่) สัญชาติ ไทย ผู้ถูกจับที่ 1
2. นายแทซอตา อายุ 29 ปี สัญชาติ เมียนมา ผู้ถูกจับที่ 2
3. นายเชียงเชียงซอ อายุ 20 ปี สัญชาติ เมียนมา ผู้ถูกจับที่ 3
4. นางสาวเชเชียงอู๋ อายุ 42 ปี สัญชาติ เมียนมา ผู้ถูกจับที่ 4
5. นางสาวอีมีอ๋อง อายุ 27 ปี สัญชาติ เมียนมา ผู้ถูกจับที่ 5
6. นางสาวมู๋ไค อายุ 27 ปี สัญชาติ เมียนมา ผู้ถูกจับที่ 6
7. นางสาวอีเนียง อายุ 20 ปี สัญชาติ เมียนมา ผู้ถูกจับที่ 7
8. นางสาวเนียงไล อายุ 21 ปี สัญชาติ เมียนมา ผู้ถูกจับที่ 8
9. นางสาวเวเนียะ อายุ 23 ปี สัญชาติ เมียนมา ผู้ถูกจับที่ 9
10. นางสาวสุไล อายุ 40 ปี สัญชาติ เมียนมา ผู้ถูกจับที่ 10
สถานที่จับกุม ถนนมิตรภาพ (ทล.2) ขาขึ้น ตรงข้ามร้านอาหารเทพประทาน ระหว่างกิโลเมตรที่ 30-31 ม.6 ต.มิตรภาพ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
พร้อมด้วยของกลาง
1. รถยนต์นั่งสองตอนท้ายบรรทุก ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีเทา จำนวน 1 คัน
2. โทรศัพท์ ยี่ห้อ OPPO สีฟ้า จำนวน 1 เครื่อง
3. กุญแจรถยนต์ จำนวน 1 ดอก
โดยกล่าวหาว่า
ผู้ถูกจับที่ 1 “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม”
ผู้ถูกจับที่ 2 – 10 “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล. ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล. จึงได้สั่งการให้มี
การสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ จนกระทั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง บริเวณ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยพบรถยนต์นั่งสองตอนท้ายบรรทุก ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีเทา โดยมีน้ำหนักที่รถยนต์มากว่ารถยนต์ปกติ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด จนกระทั่งมาถึง บริเวณ กม.27 ถนนสายเอเชีย ทล.32 ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบพร้อมกับได้แสดงความบริสุทธิ์ใจจนเป็นที่พอใจแล้ว เบื้องต้นสอบถามชื่อ นายพงษ์เพชรฯ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์นั่งสองตอนท้ายบรรทุก ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีเทา โดยมีผู้ถูกจับที่ 2 – 10 นั่งโดยสารมากับรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเชิญรถยนต์คันดังกล่าวมาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่ หน่วยบริการตำรวจทางหลวงเอเชีย จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่า ผู้ถูกจับที่ 2 – 10 เป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง โดยผู้ถูกจับนั่งโดยสารมาในรถยนต์คันดังกล่าว จากการสอบถามผู้ถูกจับที่ 1 ให้การยอมรับว่า ได้รับการประสาน
จากชายไทย (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ประสานงานให้ไปรับแรงานต่างด้าวที่บริเวณ ป่าข้างทาง พื้นที่ อ.วังเจ้า จ.ตาก จำนวน 9 คน เพื่อไปส่งพื้นที่ชั้นในยังไม่ทราบปลายทางโดยได้รับค่าจ้าง 1,000 บาท/คน ผู้ถูกจับที่ 1 รับว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว บรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง และตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวทั้ง 9 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆ และยินยอมที่จะนำพามาส่ง
ที่ปลายทาง จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ โดยตนนั้นได้กระทำแบบนี้มาเป็นครั้งแรกและสอบถามผู้ถูกจับที่ 2 – 10 ผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมาให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา
เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยยังไม่ได้เสียค่าใช้จ่าย เมื่อถึงปลายทาง จะมีญาติของผู้ต้องหา
เป็นคนจ่ายเงินให้กับนายหน้าที่นำพาเข้าประเทศไทย ในราคาประมาณ 12,000 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม
จึงแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ถูกจับที่ 1 ฐาน “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย
ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” และ ผู้ถูกจับที่
2 – 10 ฐาน “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากนั้นควบคุมตัวพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรนครหลวง ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้ถูกจับทราบด้วยว่า ผู้ถูกจับมีสิทธิที่จะไม่ให้การหรือให้การก็ได้
และถ้อยคำของผู้ถูกจับนั้นอาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้ และมีสิทธิที่จะพบและปรึกษาทนายความหรือผู้ซึ่งจะเป็นทนายความ ผู้ถูกจับรับทราบข้อกล่าวหาและสิทธิของผู้ถูกจับดังกล่าวข้างต้นแล้ว
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น
ผู้ถูกจับที่ 1 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ผู้ถูกจับที่ 2 – 10 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ดูเพิ่มเติม :
https://www.facebook.com/100067170936914/posts/641686154747077
เพจ Facebook :
Raider Reporter
Facebook : Raider Reporter
https://www.facebook.com/Raiderreporter
LINE Raider Buddy :
https://line.me/R/ti/p/@678ztvpk
Youtube :
https://www.youtube.com/@raiderreporter7236