ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย, พ.ต.อ.ปทักษ์ ขวัญนา รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.เจษฎา แก้วจาเครือ, พ.ต.ท.ศุภกร ตังคะประเสริฐ, พ.ต.ท.เอนก บุญตา,
พ.ต.ท.อรรถวิทย์ สุขทัศน์ รอง ผกก.4 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.อัคนี ณ บางช้าง สว.กก.4 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ
กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม
ร่วมกันจับกุม
1. นายศุภกิตติ์ฯ อายุ 29 ปี
สถานที่จับกุม บริเวณบ้านพักในพื้นที่ หมู่ 8 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย
ของกลาง ซิมการ์ดที่ลงทะเบียนแล้ว จำนวน 61 หมายเลข
2. นายอนุชิตฯ อายุ 27 ปี
สถานที่จับกุม บริเวณบ้านพักในพื้นที่ หมู่ 6 ต.รอบวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย
ของกลาง ซิมการ์ดที่ลงทะเบียนแล้ว จำนวน 300 หมายเลข
3. นางภิชามญช์ฯ
สถานที่จับกุม บ้านพักในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ต.เชียงม่วน อ.เชียงม่วน จ.พะเยา
ของกลาง ซิมการ์ดที่ลงทะเบียนแล้ว จำนวน 1,382 หมายเลข
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นธุระ จัดหา โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ หรือขายหมายเลขโทรศัพท์ สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดๆ แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้”
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจับกุมตัวสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในพื้นที่
จ.หนองคาย และได้สืบสวนขยายผลเพิ่มเติมจนทราบว่า มีกลุ่มบุคคลต้องสงสัยในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียง โดยมีการสั่งซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์ที่มีการลงทะเบียนโดยบุคคลอื่นและสามารถใช้งานซิมดังกล่าวได้ จากเครือข่ายของสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ถูกจับกุมจำนวนมาก น่าเชื่อว่าเป็นการสั่งซื้อเพื่อนำไปส่ง หรือขายต่อให้กับ กลุ่มของขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้โทรศัพท์หลอกลวงประชาชน หรือดำเนินการทางธุรกิจผิดกฎหมายที่มีฐานการกระทำความผิดอยู่ที่ประเทศพม่าและประเทศลาว ซึ่งอยู่ติดกับพื้นที่จังหวัดเชียงราย
ต่อมาจากการสืบสวนพบว่า จะมีซิมการ์ดถูกจัดส่งมาให้กับกลุ่มเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จำนวน 2 จุด และ จังหวัดพะเยา จำนวน 1 จุด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผนเข้าตรวจสอบสิ่งของที่อยู่ในพัสดุดังกล่าว จากการตรวจสอบ
จุดที่ 1 ที่บ้านพักในพื้นที่ หมู่ 8 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย มีการส่งพัสดุจำนวน 1 กล่องโดยมี น.ส.ฉวีวรรณฯ เป็นผู้มารับพัสดุโดยให้การว่า พัสดุดังกล่าวเป็นของนายศุภกิตติ์ฯ ซึ่งเป็นสามี ก่อนที่
นายศุภกิตติ์ฯ จะเดินทางมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม และรับว่าพัสดุดังกล่าวเป็นของตน
ตรวจสอบพัสดุ พบว่าภายในบรรจุซิมการ์ดโทรศัพท์ที่มีการลงทะเบียนแล้ว จำนวน 61 หมายเลข
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมตัวนายศุภกิตติ์ฯ พร้อมด้วยของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จุดที่ 2 ที่บ้านพักในพื้นที่ หมู่ 6 ต.รอบวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย มีการส่งพัสดุ
จำนวน 1 กล่อง โดยมีนายอนุชิตฯ เป็นเจ้าของพัสดุ จากการตรวจสอบพัสดุ พบว่าภายในบรรจุซิมการ์ดโทรศัพท์ที่มีการลงทะเบียนแล้ว จำนวน 300 หมายเลข เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมตัวนายอนุชิตฯ
พร้อมด้วยของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จุดที่ 3 ที่บ้านพักในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ต.เชียงม่วน อ.เชียงม่วน จ.พะเยา มีการส่งพัสดุ จำนวน 2 กล่อง
โดยมีนางภิชามญช์ฯ เป็นผู้รับพัสดุ จากการตรวจสอบพบว่า ภายในบรรจุซิมการ์ดโทรศัพท์ที่มีการลงทะเบียนแล้วจำนวนทั้งหมด 1,382 หมายเลข เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมตัวนางภิชามญช์ฯ พร้อมด้วยของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงม่วน จ.พะเยา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น
นายศุภกิตติ์ฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าซื้อซิมการ์ดดังกล่าว มาในราคา 40 บาท และจะนำไปขายต่อในราคา 45 บาท
นายอนุชิตฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าซื้อซิมการ์ดดังกล่าว มาในราคา 45 บาท และจะนำไปขายต่อในราคา 50 บาท แต่ยังไม่ทันขายถูกจับก่อน
นางภิชามญช์ฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าจะนำซิมการ์ดดังกล่าวไปขายต่อที่ประเทศพม่า
