ป้าร้อง กันจอมพลัง ถูกเพื่อนบ้านปาขี้ ลงมาใส่บ้าน ใส่กำแพง นับครั้งไม่ถ้วน ต้องอยู่กันอย่างหวาดระแวง จนคนแถวนั้นไม่สามารถจอดรถได้ เพราะโดนอุจจาระ
เวลา 10.00 น. วันที่ 14 พ.ค 67 ที่ รัชดาภิเษก 36 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกันจอมพลัง พร้อม กรมสุขภาพจิต เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจพหลโยธิน หน่วยงานเขตจตุจักร อนามัยกรุงเทพมหานคร ได้เข้าช่วยเหลือป้า ผู้เสียหาย โดน ถูกเพื่อนบ้าน ชายวัย 50 ซึ่งอาศัยอยู่บนตึกชั้น 4 ปาอุจจาระ ลงมาใส่บ้าน ใส่กำแพง นับครั้งไม่ถ้วน ต้องอยู่กันอย่างหวาดระแวง จนคนแถวนัยไม่สามารถจอดรถตรงนั้นได้ เพราะโดนอุจจาระ และได้เคยบอกแม่ผู้ก่อเหตุแล้ว แต่แม่ไม่ยอมรับ ต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนเท่านั้นถึงจะยอมรับว่าเป็นอุจจาระลูกตัวเอง ซึ่งผู้เสียหายต้องทำการติดกล้องวงจรปิดและมีหลักฐานชัดเจนจึงขอให้กันจอมพลังช่วยเหลือในครั้งนี้
โดยผู้เสียหาย ได้ระบุว่า ตนทนไม่ไหว ที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ บอกแม่เขามาจัดการก็ไม่สนใจ ซึ่งไม่ใช่แค่ตนเองที่เดือดร้อน ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในระแวกนี้ ก็ได้รับผลกระทบต้องอยู่กันแบบหวาดระแวง ที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีปัญหาส่วนตัวอะไรกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งผู้ก่อเหตุนึกอยากปาก็ปาลงมา โดยการปาแต่ละครั้งไม่สามารถระบุเวลาได้แล้วแต่ว่าจะปามาเมื่อไหร่ การปาอุจจาระแต่ครั้งทำให้โดนรถ จนจอดไม่ได้ โดนต้นไม้ที่ปลูกจนต้องเอาทิ้ง ผ้าก็ไม่กล้าตาก กลัวเขาปาอุจจาระใส่ ตนเคยไปเคาะห้อง แต่เขาไม่เปิดประตูให้ เอาตำรวจไปก็ไม่เป็นผล จนตนต้อง เก็บอุจจาระเอง ซึ่งพอบอกแม่เขามาเก็บ แม่เขาก็บอกว่า ไม่ใช่อุจจาระของลูกตัวเอง และบริเวณหน้าห้องชั้น 4 ที่ผู้ก่อเหตุอาศัยอยู่ จะได้แต่กลิ่นอุจจาระ เคยบอกแม่เขาว่าจะมาร้องสื่อ ถ้าเกิดไม่ไปแก้ปัญหา แต่เขาก็ท้าว่าร้องเลยไม่กลัว
ส่วนทางด้านนายกัณฐัศว์ เปิดเผยต่อว่า ตนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ไปเกลี่ยกล่อม ทางแม่ และพ่อผู้ก่อเหตุ ขออนุญาตให้ทางแพทย์สุขภาพจิตได้พาตัวลูกชายไปที่โรงพยาบาล และได้ขึ้นไปบนห้องผู้ก่อเหตุ ก็พยายามพูดคุยว่า มีคนมาดูแล และจะมาช่วยเหลือ และเขาได้ตอบกลับมาแบบไม่รู้เรื่อง และพยามที่จะขอเปิดห้องก็ไม่สะดวก และพ่อแม่ผู้ก่อเหตุ บอกว่าลูกตนอยู่ในห้องนี้ก็มีความสุขดี และอยากให้อยู่ที่นี้ไม่อยากให้ไปไหน และได้แอบดูภายในห้องของผู้ก่อเหตุ ปรากฏว่าสิ่งที่เห็น แถบอ้วก และน่าตกใจมาก คือขยะเต็ม และเขาอุจจาระเต็มห้องไปหมด และตนถามพ่อแม่ผู้ก่อเหตุว่า ถ้าเกิดวันหนึ่งพ่อกับแม่เสียชีวิตไป เขาจะอยู่ยังไง ถ้าไม่รีบเอาไปรักษา เขาก็บอกว่า อยู่ได้ ฝากคนอื่นไว้ล่ะ และเขารักลูกคนนี้มาก แต่ต้องรักให้เป็น ไม่ใช่ไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น และการใช้ชีวิตของเขาในแต่ละวัน คือจะไม่ลงมาข้างล่างเลย พ่อแม่จะเอาข้าวขึ้นไปให้ เป็นประจำทุกวัน และเขาเป็นคนสันโดษ ไม่มีไฟกับน้ำใช้
ทั้งนี้ พ่อผู้ก่อเหตุให้เหตุผลกับตนว่า สาเหตุที่เขาเป็นแบบนี้เนื่องจากแต่ก่อน เขาโดนกดดันจากคนรอบข้าง ทั้งตกงาน หางานไม่ได้ เรียนหนังสือไม่จบ และเขาเคยโดนไล่ลงจากรถเมล์ เขาเลยกลายเป็นแบบนี้ แต่ก็ต้องดูต่อไปว่าบทสรุปจะเป็นอย่างไร
