แจ้ง 2 ข้อหา 3 เยาวชนก่อเหตุทำร้ายคู่อริ จนประสบอุบัติเหตุ ขับรถชนเสาไฟฟ้าเสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บอีก 1 คน ที่ย่านรามอินทรา
พนักงานสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางเขนควบคุมตัว 3 เยาวชน อายุ 14 – 15 ปี ขึ้นรถออกจากสถานีตำรวจนครบาลบางเขนไป ทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดเกิดเหตุย่านรามอินทรา หลังก่อเหตุไล่ทำร้ายร่างกายกันเมื่อคืนที่ผ่านมา
พันตำรวจเอกอนันต์ วรสาตร์ ผู้กำกับการ สถานีตำรวจนครบาลบางเขน เปิดเผยว่า ฝ่ายสืบสวนได้ไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดกรณีที่เยาวชน 2 กลุ่ม ขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ทำร้ายร่างกายกันที่บริเวณซอยรามอินทรา 5 เมื่อคืนที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และมีผู้บาดเจ็บ 1 คน
จนสามารถพิสูจน์ทราบตัวคนร้ายทั้ง 3 คน ซึ่งเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนได้พาผู้ก่อเหตุมามอบตัว สำหรับมูลเหตุจูงใจนั้น ผู้ก่อเหตุอ้างว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มตัวเองและกลุ่มผู้เสียชีวิตเป็นเด็กที่รู้จักกันมาก่อน แต่มาแตกหักกันในเรื่องชู้สาว ซึ่งทั้งสองกลุ่มได้มีเหตุปะทะกันมาอย่างต่อเนื่อง โดยครั้งล่าสุดเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ทั้งสองกลุ่มก็ได้กระทบกระทั่งและใช้อาวุธปืนยิงกันที่บริเวณถนนงามวงศ์วาน แต่เหตุการณ์นั้นไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต
สำหรับการตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุธมีดตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 เล่ม ส่วนขั้นตอนการสอบปากคำ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้นัดผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนให้มาสอบปากคำร่วมกับสหวิชาชีพอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ และจะดำเนินการฝากขังที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ใน ข้อหาทำร้ายร่างกายและพกพาอาวุธในพื้นที่สาธารณะ ส่วนจะเข้าข่ายข้อหาพยายามฆ่าหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ขณะที่พ่อของนายศิวกร ไกรโนนทอง หรือน้องเมนูอายุ 15 ปี หนึ่งในเยาวชนที่เสียชีวิต เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตนเคยตักเตือนลูกชายมาหลายครั้งแล้ว ว่าให้หยุดพฤติกรรมต่าง ๆ เพราะตนรู้สึกเอือมระอาที่ต้องไปเจรจา และจ่ายค่าเสียหายให้กับคู่กรณี หลังจากที่ลูกชายไปก่อเหตุทำร้ายร่างกายมาหลายครั้ง
สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ ในขณะที่เกิดเหตุนั้นตนกำลังขับรถไปส่งผู้โดยสารที่ย่านธัญบุรี และมีญาติโทรมาบอกตนว่าลูกชายของตนประสบอุบัติเหตุรถชนเสาไฟฟ้าเสียชีวิต ตนจึงรีบมาที่เกิดเหตุ และพบว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว พร้อมกับพบว่าบริเวณร่างกายมีบาดแผลที่ถูกของมีคมทำร้ายมาก่อน
ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าลูกชายของตนไม่ได้เป็นเด็กที่ดี แต่ก็ไม่ควรต้องมาเสียชีวิตแบบนี้ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะถามกลุ่มผู้ก่อเหตุว่า สะใจหรือยัง พอใจหรือยัง ที่ลูกชายตนตายไปแล้ว พร้อมกับถามผู้ปกครองของกลุ่มผู้ก่อเหตุว่า จะเยียวยาชดใช้ตนอย่างไร