รวบชาวจีน วูนูอาตู เปิดบริษัทนอมินีนำเข้ารถหรู
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. , พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ , พ.ต.อ.จักรริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ. และ พ.ต.อ.กริช วรทัต ผกก.4 บก.ปอศ.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.สาธิต หาวงษ์ชัย สว.กก.4 บก.ปอศ. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ กก.4 บก.ปอศ.
ร่วมกันจับกุม – Mr.Shao หรือ นายเชาฯ อายุ 35 ปี สัญชาติ วูนูอาตู ตามหมายจับศาลอาญา
ที่ 2884/2565 ลงวันที่ 22 ธันวาคม 2565 ฐานความผิด คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต
พฤติการณ์ กลุ่มผู้ต้องหาได้เปิดบริษัทจำกัด จำนวน 3 บริษัท ประกอบธุรกิจ นำเข้ารถหรู จำหน่ายตัวแทนจำหน่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันหล่อลื่น น้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้สำหรับรถยนต์ เครื่องยนต์ เครื่องจักรกล รับจ้างขุดลอก วางท่อ และทำถนน งานโยธาทุกประเภท และ ตัวแทนจำหน่ายอะไหล่ อุุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ฯ โดยปรากฏมีคนไทยถือหุ้นและเป็นกรรมการ แต่จากการสืบสวนสอบสวนพบว่ากลุ่มคนไทยดังกล่าวไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการที่แท้จริงและไม่มีศักยภาพหรือสถานะทางการเงินในการดำเนินธุรกิจได้จริง จากนั้นพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติต่อศาล ออกหมายจับผู้ต้องหารวม 4 คน โดยเจ้าพนักงานตำรวจได้จับตัวผู้ต้องหา 3 ราย ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว แต่ผู้ต้องหาในรายของ Mr.Shao หรือ นายเชาฯ ซึ่งเป็นตัวการใหญ่และเป็นเจ้าของเงินทุนจากต่างประเทศที่เข้ามาเปิดบริษัท
จดทะเบียนให้คนไทยถือหุ้นแทนเพื่อประกอบกิจการโดยหลบเลี่ยงกฎหมายนั้น พบว่าได้ชื่อสวมบัตรประชาชนคนไทยและถูกศาลจังหวัดปัตตานีออกหมายจับ ในความผิดฐาน “แจ้งความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสาร ราชการซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือ ประชาชน, เป็นผู้สนับสนุนในความผิดฐานยื่นขอมีบัตรโดยมิได้มีสัญชาติไทยด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงต่อเจ้าหน้าที่และแจ้งข้อความหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในการ ขอมีบัตรประชาชน” ถูกควบคุมตัวตามหมายจับศาลจังหวัดปัตตานีในคดีอื่นที่เรือนจำกลางปัตตานี เจ้าพนักงานตำรวจได้ตรวจสอบทราบว่าผู้ต้องหาจะถูกปล่อยตัวในวันนี้ จึงได้ประสานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำอายัดตัวและควบคุมตัวนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
เตือนภัย บก.ปอศ. ฝากเตือนบุคคลผู้มีสัญชาติไทยอย่าให้คนอื่นนำชื่อตัวเองเข้าไปถือหุ้นในบริษัทใดๆ หรือแสดงตนว่าเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทซึ่งมีคนต่างชาติเป็นเจ้าของโดยที่ตัวเองไม่ได้ลงทุนจริงในลักษณะถือหุ้นแทนคนต่างชาติหรือนอมินีให้กับคนต่างชาติเพื่อประกอบธุรกิจ เพราะมีความผิด พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว พ.ศ.2542 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการถือหุ้นแทนคนต่างชาติส่งผลให้เศรษฐกิจไทยได้รับความเสียหายในภาพรวมเนื่องจากเป็นธุรกิจที่แข่งขันกับคนไทยโดยตรงและผู้รับผลประโยชน์จากการทำธุรกิจ ที่แท้จริงเป็นคนต่างชาติ