จับลูกจ้างแสบฉกเงินเกือบล้านบาท หลบหนี พบประวัติเพิ่ม ก่อเหตุฉกทรัพย์นายจ้าง
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,
พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส., พ.ต.อ.อริยพล สินสอน,
พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญญา รอง ผบก.ปทส., พ.ต.อ.วิศิษฐ์ พลบม่วง ผกก.1 บก.ปทส.,
พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ, พ.ต.ท.เอกพล ปัญจมานนท์ รอง ผกก.1 บก.ปทส.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ธานุพันธ์ สุระสะ สว.กก.1 บก.ปทส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส.
ร่วมกันจับกุม นางสาวสิริรัตนาฯ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหามี 5 หมายจับ
1. หมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 102/2565 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ยักยอกทรัพย์”
2. หมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 90/2565 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ยักยอกทรัพย์”
3. หมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 141/2565 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”
4. หมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 143/2565 ลงวันที่ 28 มิถุนายน 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์”
5. หมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 186/2565 ลงวันที่ 19 กันยายน 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ปลอมเอกสาร ใช้เอกสารปลอม ร่วมกันฉ้อโกง”
สถานที่จับกุม บริเวณซอยพหลโยธิน 48 แยก 5 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อกลางปี 2563 ผู้ต้องหาได้เข้าทำงานที่บริษัทผลิตขนมอบกรอบในย่านปทุมธานี ตำแหน่งพนักงานธุรการและบัญชี ต่อมาประมาณกลางปี 2564 ผู้ต้องหาได้นำเงินของทางบริษัทที่ใช้สำหรับชำระค่าสินค้ากับทางบริษัทคู่ค้าและค่าเช่าสถานที่ไปและปลอมเอกสารใบสั่งซื้อสินค้าและใบเสร็จรับเงินต่างๆ เพื่อให้ทางบริษัทผู้เสียหายชำระเงินตามเอกสารที่ผู้ต้องหาจัดทำขึ้นมา
ซึ่งก่อเหตุกว่า 20 ครั้ง ทำให้ได้รับความเสียหายกว่า 850,000 บาท เมื่อบริษัทผู้เสียหายทราบเรื่องจึงได้ ฟ้องศาลจังหวัดปทุมธานีเพื่อดำเนินคดี
จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ภายหลังที่ผู้ต้องหาได้หลบหนีคดียักยอกเงินจากบริษัทดังกล่าว ต่อมาประมาณปี 2566 ผู้ต้องหาได้สมัครงานร้านซูชิย่านจังหวัดนนทบุรีและได้ก่อเหตุลักขโมยเงินของทางร้านไป จำนวน 15,056 บาท เจ้าของร้านซูชิทราบเรื่อง จึงได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ผู้ต้องหาจะมาบ้านญาติภายในซอยพหลโยธิน 48
แยก 5 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ บริเวณภายในซอยดังกล่าว จากนั้นนำตัวส่งศาลจังหวัดปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า เป็นคนนำเงินทางบริษัทไปจริง โดยอาศัยระยะเวลาการวางบิลสินค้า 30 วัน แล้วนำเงินที่ได้ไปหมุนใช้ส่วนตัว
แต่หมุนเงินคืนไม่ทัน ส่วนคดีลักเงินของทางร้านซูชิ ผู้ต้องหารับว่า ได้อาศัยความไว้ใจของทางเจ้าของร้านเป็นผู้เก็บรักษาเงินยอดขายต่อวัน ได้นำเงินไปหมุนใช้ส่วนตัว ประกอบกับเป็นหนี้นอกระบบ จึงไม่สามารถหาเงินมาใช้คืนได้