ตามรวบอดีตรปภ. ดักชิงทรัพย์ทำร้ายพ่อค้าล็อตเตอรี่ เจ้าตัวอ้างกระเป๋าติดมือเอง
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 3 เม.ย. พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.สุรพงศ์ ธรรมพิทักษ์ รอง ผบก.น.2 โดย พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม พ.ต.ท.ดิษยเดช ยิ้มแย้ม รอง ผกก.สน.สายไหม พ.ต.ท.ปราโมทย์ อรชุน สว.สส.สน.สายไหม และฝ่ายสืบสวนสน.สายไหม ร่วมกันจับกุมตัวนายไพรัตน์ หรือรัตน์ อายุ 51 ปี หลังก่อเหตุทำร้ายร่างกายพ่อค้าขายล็อตเตอรี่ที่นั่งรอรถที่ป้ายรถเมล์หน้าหมู่บ้านรัชธานี 6 ถนนสายไหม จนได้รับบาดเจ็บก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายของผู้เสียหายที่ภายในมีเงินสดจำนวน 8 หมื่นบาทหลบหนีไป เหตุเกิดเวลาประมาณตี 4 ของวันที่ 2 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยจับกุมได้ที่เคหะชุมชนออเงิน ถนนสุขาภาบาล5 ซอย 64
สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 03.50 น. ของวันที่ 2 เม.ย. ผู้เสียหายซึ่งเป็นพ่อค้าล็อตเตอรี่ อายุ 77 ปี เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน. สายไหม หลังถูกคนร้ายเป็นชาย 1 คน ขับรถจักรยานยนต์มาจอดก่อนจะลงมือทำร้ายร่างกาย แล้วเอากระเป๋าสะพายซึ่งภายในมีเงินสดจำนวนกว่า 8 หมื่นบาท ที่ผู้เสียหายกำลังจะไปซื้อล็อตเตอรี่ หลบหนีไป ขณะนั่งรอขึ้นรถโดยสารอยู่ที่ป้ายรถเมล์หน้าหมู่บ้านรัชธานี 6 ถนนสายไหม
ต่อมาฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหาเบาะแส รวมถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ พบว่าก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 03.45 น. คนร้ายได้จอดรถอยู่ในมุมมืดเลยจุดเกิดเหตุไปประมาณ 10 เมตร จากนั้นผ่านไป 2 นาที คนร้ายได้ขยับรถมาจอดฝั่งตรงข้าม และเวลา 03.50 ผู้เสียหายได้เดินออกมาจากหมู่บ้านรัชธานี 6 ก่อนจะมานั่งที่ป้ายรถเมล์ ซึ่งขณะเดียวกันคนร้ายขับรถจักรยานยนต์วนออกมาแล้วขับไปจอดก่อนเดินลงไปทำร้ายผู้เสียหายแล้วกระชากผู้เสียหายจนล้มลง ใช้เวลาก่อเหตุเพียง 1 นาที แล้วรีบขับหลบหนีไปพร้อมกระเป๋าผู้เสียหาย
จากการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องของเจ้าหน้าที่ทำให้ทราบว่าคนร้ายรายนี้พักอาศัยอยู่ที่ตึก 9 การเคหะออเงิน 2 เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปตรวจสอบจนพบชายต้องสงสัยซึ่งมีลักษณะรูปพรรณตรงกับคนร้ายที่ปรากฏตามกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปสอบถาม ทราบชื่อนายไพรัตน์ หรือรัตน์ อายุ 51 ปี และยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง จากนั้นได้พาเจ้าหน้าที่ไปตรวจค้นห้องพักพบกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 12 นัด และชุดที่ใส่ในวันเกิดเหตุ พร้อมพาเจ้าหน้าที่ไปหากระเป๋าของผู้เสียหายที่โยนทิ้งไปที่ด้านหลังแฟลต
ส่วนสาเหตุนายไพรัตน์ อ้างว่าแค้นที่ก่อนหน้าตนเองไปซื้อล็อตเตอรี่จากผู้เสียหายมาจำนวน 2 ใบ และได้จ่ายเงินไปแล้ว แต่ผู้เสียหายบอกยังไม่ได้จ่ายเลยมีปากเสียงกัน และในคืนวันเกิดเหตุได้ขับรถผ่านมาพอดีจึงเข้าไปก่อเหตุ ระหว่างนั้นเห็นคนเดินมาที่เสื้อมีแถบสะท้อนแสง คิดว่าเป็นตำรวจเลยรีบขับรถหนีออกมาแต่บังเอิญหยิบกระเป๋าติดมือมาด้วย ยอมรับว่าได้นำเงินในกระเป๋าจำนวน 8 หมื่นบาทไปจริง แล้วเอากระเป๋าไปโยนทิ้ง ส่วนเงินได้นำไปใช้หนี้บริษัทเงินกู้ หนี้นอกระบบ ค่างวดรถ รวมกว่า 25,000 บาท บางส่วนเสียไปกับการพนันออนไลน์ในมือถือ 2 หมื่นบาท เหลือในบัญชีประมาณ 3 หมื่นกว่าบาท ส่วนกระสุนปืนตนเองได้เอาของเพื่อนที่เหลือจากการซ้อมมาเก็บไว้
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเนื่องจากพฤติการณ์น่าจะมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี มีการมาจอดรถเฝ้ารอผู้เสียหาย และใช้เวลาก่อเหตุไม่นาน ซึ่งผิดวิสัยของคนที่จะมาทำร้ายร่างกายธรรมดา และจากการตรวจสอบประวัติพบปี 66 ถูกดำเนินคดีลักทรัพย์ในเวลากาลคืน ท้องที่สน.คันนายาว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาชิงทรัพย์ รับของโจร ส่งพนักงานสอบสวนสน.สายไหมดำเนินคดี ส่วนกระสุนปืนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.คันนายาวเพื่อดำเนินคดีตามพรบ.อาวุธปืนต่อไป