เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ก.พ. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1 พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2. พล.ต.ต.อคิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3. พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4. พร้อมเจ้าหน้าที่ บช.ปส. ร่วมกันแถลงจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขนยาเสพติด จำนวน 17 คน 6 เครือข่าย สามารถยึดยาบ้า 12,119,600 เม็ด และทรัยพ์สินมูลค่ารวม 2,917,550 บาท
คดีแรก ตำรวจ กก.1 บก.ปส.1 รับแจ้งจากสายลับมีกลุ่มเครือยาเสพติดในพื้นที่ภาคใต้ อดีตนักโทษคดียาเสพติด จะขึ้นไปรับยาเสพติดทางภาคเหนือมาจำหน่ายในพื้นที่ กทม. และ อำเภอหาดใหญ่ จว.สงขลา โดยใช้รถยนต์ 3 คัน ในการลำเสียงครั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าขบวนรถทั้งหมดจะไปรับยาเสพติดบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ชายแดนจ.เชียงราย และกำลังเดินทางกลับ กระทั่งกลางดึกของวันที่ 7 ก.พ.67 ชุดจับกุมตรวจพบรถเป้าหมายจอดอยู่บริเวณหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ต.ในเมือง อ.เมืองกำแพงเพชร จ.กำเพงเพชร จึงเฝ้าติดตามสังเกตการณ์ไปช่วงสายของอีกวันหนึ่ง รถทั้ง 3 คัน คือ รถเก๋ง 1 คัน รถกระบะ 2 คัน จึงได้ขับไปรวมตัวกันยังจุดนัดหมาย ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวขอตรวจคัน โดยมีนายสัญญา หรือตูน นาคะโร, นายปีติ หรือเจ้ง แซ่ฉั่ว และนายนครินทร์ หรือเอ็ม อินทสาร เป็นคนขับรถทั้งหมด เบื้องต้นพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในรถเก๋ง 755,600 เม็ด ส่วนรถอีก 2 คัน ทำหน้าที่เป็นรถนำ และรถคุ้มกัน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างออกหมายจับ ผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด
คดีที่ 2 ตำรวจ กก.3 บก.ปส.2 ได้สืบสวนติดตามกลุ่มเครือข่ายที่มีพฤติการณ์ลำเลียงยาเสพติด พบว่ามีเครือข่ายนายยอดชาย อนุวรรณ มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ตามแนวชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ไปส่งให้กับลูกค้าในเขตพื้นที่ตอนใน โดยใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะ ต่อมาวันที่ 7 ก.พ.67 เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่ากลุ่มเครือข่ายนายยอดชาย อนุวรรณ จะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่แนวชายแดน จ.นครพนม จึงวางกำบังเฝ้าสังเกตุการณ์ตามเส้นทางที่คาดว่าจะเป็นเส้นทางในการลำเลียงยาเสพติด กระทั่งพบรถยนต์ 2 คัน ลักษณะขับตามกันมาต้องสงสัยโดยใช้ถนนสาย 2004 บริเวณบ้านข้าวแป้ง ต.วาใหญ่ อ.อากาสอำนวย จ.สกลนคร จนขับมาถึงบริเวณสะพานข้ามลำน้ำพุง ต.เต่างอย อ.เต่างอย จ.สกลนคร เจ้าหน้าที่พบมีการชะลอความเร็ว ชุดจับกุมจึงได้เข้าแสดงตัวและขอตรวจสอบรถทั้งสองคันทันที ระหว่างนั้น คนขับรถฟอร์จูนเนอร์ ได้ขับรถพุ่งชนรถตำรวจชุดจับกุม และขับหลบหนีไป ก่อนจะจับกุมตัวผู้ต้องหาได้บริเวณท้ายหมู่บ้านจันทร์เพ็ญ ต.จันทร์เพ็ญ อ.เต่างอย จ.สกลนคร ทราบชื่อคนขับนายอภิสิทธิ์ ควงสุ เมื่อทำการตรวจค้นรถพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในห้องโดยสาร รวม 4,000,000 เม็ด ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายยอดชาย อนุวรรณ เป็นผู้ขับขี่ รถอีซูซุรุ่นดีแมกซ์ และน.ส.ต้า โพทิลาด ชาวลาว นั่งโดยสารมาด้วย ก่อนควบคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.2 ดำเนินคดี และขยายผลต่อไป
คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 9 ก.พ.67 ตำรวจ กก.3 บก.ปส.2 และ บก.ขส. ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีเครือข่าย “ปลาส้มศรีสงคราม” มีความเคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยจะนำรถยนต์ฮอนด้า เข้าไปลำเลียงยาเสพติด กระทั่งช่วงค่ำวันที่ 10 ก.พ.67 พบรถเป้าหมายขับอยู่บน ถนนภูพาน-สมเด็จ พื้นที่ จ.สกลนคร ต่อเนื่อง จ.กาพสินธุ์ จึงกระจายกำลังเฝ้าติดตามในเส้นทางที่คาคว่ารถจะผ่านบนถนน หมายเลข 213 เมื่อรถเป้าหมายมาถึง พื้นที่ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น กลุ่มคนร้ายรู้ตัวว่าถูกติดตามจึงได้พยายามเร่งความเร็วหลบหนี จนสามารถจับกุมคนขับทราบชื่อนายสมพงข์ พูลเกษม ได้บริเวณริมถนนหน้าบ้านเลขที่ 81 ม.8 ต.หินตั้ง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จากการตรวจค้นรถพบยาบ้า 524 มัด บรรจุอยู่ในกระสอบ ซุกซ่อนอยู่ในห้องโดยสารและกระโปรงท้ายรถ รวม 12 กระสอบ รวมยาบ้าทั้งหมด 5,240,000 เม็ด จึงนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน ปส.2 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 4 จากการสืบสวนของ ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 พบมีเครือข่ายผู้ค้าและลำเลียงยาเสพติด เป็นกลุ่มชาติพันธุ์อาข่าจากชายแคนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย จะลำเลียงยาเสพติดจำนวนมาก จากพื้นที่ชายแดนเข้ามายังพื้นที่ตอนในของ จ.เชียงราย โดยจะนำมาพักไว้ในพื้นที่ ต.แม่ยาว กระทั่งบ่ายวันที่ 3 ก.พ.67 ตำรวจพบรถยนต์เป้าหมาขขับจากสี่แยกห้วยปลากั้ง มุ่งหน้าหมู่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย และขับออกจากพื้นที่โดยใช้ถนนเส้นทาง ดอยฮาง – แยกฮ่องอ้อ และอยู่บนถนนบายพาสรอบเมืองเชียงราย ก่อนจะขับไปจอดที่ใหล่ทางถนนของถนนหน้าสนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย โดยพบรถอีกหนึ่งคันจอดอยู่ด้านหน้าและรถทั้งสองคันขับออกจากบริเวณดังกล่าว ตามกัน ไปในลักษณะนำทางตลอดเส้นทาง ชุดจับกุมจึงแบ่งกำลังติดตาม กระทั่งรถทั้งสองคันเลี้ยวซ้ายที่แยกต่างระดับขัวไชยนารายณ์ ขับไปตามถนน เชียงราย-เทิง ชุดจับกุมจึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยบริการประชาชน ห้วยสักของ สภ.เมืองเชียงราย ให้ช่วยหยุดรถเป้าหมายขณะทำการตั้งตรวจบริการประชาชน พบนายบัญชา แช่เท้า ขับรถกระบะ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อีกชุดได้ติดตามรถกระบะอีกคัน จนสกัดจับไว้ได้ก่อนถึงตัวตลาดสดหัวยสัก พบนายธวัชชัย สวาทชาติ เป็นคนขับ ตรวจค้นในห้องโดยสารรถพบยาบ้ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องโดยสารด้านหลังรวม 1,000,000 เม็ด จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน ปส.3 ดำเนินคดีต่อไป
คดีที่ 5 ตำรวจ บก.สกส.ได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มเครือข่ายมักลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ทางภาคเหนือตอนบน มาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ จว.แพร่ และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งจะใช้เส้นทาง ต.แม่ยาว – เมืองเชียงราย – อ.ป่าแดด จว.
เชียงราย – จว.พะเยา – จว.แพร่ ในการลำเลียง กระทั่งกลางดึกของวันที่ 6 ก.พ.66 ชุดจับกุมสามารถสกัดจับรถได้ 2 คัน เป็นคันนำทางและใช้ขนของ บริเวณป้อมตำรวจป่าแดด ต.ป่าแดด อ.ป่าแดด จว.เชียงราย จับผู้ต้องหาได้ 4 คน คือ นายเมืองชัย สุธรรม น.ส.นามิอือ แอะอู นายธนวัฒน์ ศักดิ์ศรีชมพู นายอำนวย จะซือ ส่วนยาบ้าซุกซ่อนภายในช่องว่างใต้เบาะที่นั่งและด้านหลังพนักพิงผู้โดยสารแถวหลังของรถ จำนวน 50 มัด รวม 100,000 เม็ด จากนั้นขยายผลคุมตัวไปตรวจกันบ้านเช่าไม่มีเลขที่ หมู่บ้านนอร์ทเทิร์น ซึ่งเป็นของ นายธนวัฒน์ พบทรัพย์สินรวม 7 รายการ อาทิ อาวุธปืนพกสั้น เครื่องกระสุน รถจักรยานยนต์ สร้อยคอทองคำ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ 2,917,550 บาท
คดีที่ 6 ตำรวจ กก.1 บก.สกส. ร่วมกับ บก.ขส. และตำรวจ สภ.ด่านช้าง จว.สุพรรณบุรี จับกุม 4
ผู้ต้องหา 4 คน คือ นาย สาโรจน์ เหมพิทักข์ นายแรนันต์ ละใบ นายบุขมอรี่ เจะหมึน นายมานพ หมันเรีะ เครือข่ายนี้ได้ลำเลียงยาเสพคิจจากพื้นที่ทางภาคเหนือตอนบน และนำมาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ โดยใช้รถตู้ในการซุกซ่อนลำเลียง ขับขี่มาตามเส้นทาง ต.ตับเต่า อ.เทิง จว.เชียงราย จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้บริเวณหน้าสถานีตำรวจ สภ.ด่านช้าง จว.สุพรรณบุรี พร้อมยาบ้า 1,040,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่บริเวณหลังการถตู้ซึ่งคัดแปลงเป็นช่องลับ
สำหรับวันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 14 กุมภาพันธ์ 2567 ตำรวจปราบปรามยาเสพติค (บช.ปส.) ได้จับกุมขบวนการค้ายาเสพติด รายสำคัญ 99 คดี ผู้ต้องหา 170 คน ของกลาง ยาบ้า 132,494,672 เม็ด ไอซ์ 2,892.26 กก. เฮโรอีน 79.47 กก.โคเคน 18.97 กก. และคีตามึน 1,201.22 กก. และตรวจยึดทรัพย์ ไว้ตรวจสอบมูลค่าประมาณ 606 ล้านบาท