สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด Cyber Guard กก.4 บก.สอท.5 ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้เฝ้าระวังการกระทำความผิดในช่องทางออนไลน์ทุกประเภท พบบัญชีเฟซบุ๊กอวตารบัญชีหนึ่ง มีพฤติการณ์โพสต์ขายอาวุธปืน ซึ่งเชื่อว่าเป็นอาวุธปืนผิดกฎหมาย ตั้งแต่ประมาณปลายปีที่แล้ว จึงได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมและหาข้อมูลมาโดยตลอด
จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถระบุตัวตัวเฟซบุ๊กอวตารดังกล่าวได้ว่าคือนายจักรินทร์ อายุ 39 ปี เป็นชาว จ.หนองคาย ปัจจุบันทำงานเป็นลูกจ้างโรงงานแห่งนึงในนิคมอมตะนคร และได้เช่าห้องพักอยู่กับภรรยา ที่หอพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ม.2 ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นต่อศาลจังหวัดชลบุรี ซึ่งศาลได้ตรวจสอบพยานหลักฐานแล้ว จึงอนุมัติหมายค้นที่ ค.50/2566 ลง 15 ก.พ. 2567 ให้เข้าทำการตรวจค้นสถานที่พักอาศัยของนายจักรินทร์ฯ
ต่อมา วันที่ 15 ก.พ.67 เวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นห้องพักดังกล่าวพบนายจักรินทร์ฯ อยู่ภายในห้องพัก ได้ทราบว่าเจ้าหน้าตำรวจได้นำหมายค้นมาตรวจค้นอาวุธปืน นายจักรินทร์ฯได้แสดงอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเป็นผู้นำเข้าตรวจยึดอาวุธปืน กระสุนปืน รวมถึงอุปกรณ์การผลิตอาวุธปืน ทั้งหมดในห้องพัก และยังให้การยอมรับว่าได้เคยขายอาวุธปืนที่ผลิตขึ้นเองไปบ้างแล้วก่อนหน้าที่จะถูกจับกุม
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา ในความผิดฐาน “ทำ ประกอบ ซ่อมแซม มีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย หรือสำหรับการค้าโดยไม่รับอนุญาตจากนายทะเบียน” พรบ.อาวุธปืนฯ มาตรา 24 และ “ทำอาวุธปืน หรือมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาตจากนายทะเบียน” พรบ.อาวุธปืนฯ มาตรา 7 พร้อมยึดของกลาง อาทิเช่น อาวุธปืนยาวเดี่ยวลูกซอง ไม่มีทะเบียน 1 กระบอก, อาวุธปืนยาวลูกกรด ไม่มีทะเบียน 1 กระบอก, อาวุธปืนยาวอัดลมแรงดันสูง PCP 4 กระบอก, กระสุนปืนขนาดต่างๆ กว่า 2,000 นัด, ปั๊มลมไฟฟ้า และอุปกรณ์สำหรับดัดแปลงอาวุธปืนจำนวนหลายรายการ แล้วควบคุมตัวไปยังที่ทำการของพนักงานสอบสวน สภ.ดอนหัวฬ่อ จว.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย ผู้ถูกจับให้การปฎิเสธทั้ง 2 ข้อกล่าวหาตามคำแนะนำของทนายความ ….
