รวบคนร้าย ใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ตะเวนก่อเหตุซ้ำในพื้นที่ภาคอีสาน
กองบังคับการปราบปราม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม นายจำเนียรฯ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ๒ หมายจับ
๑. หมายจับศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ 530/2566 ลง 12 ธ.ค.66 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ชิงทรัพย์ ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธ โดยมอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่น เพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นการจับกุม, ข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใดหรือจำนวนต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายเสรีภาพหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นหรือของผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้นไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุอันควร”
2. หมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ 785/2566 ลง 13 ธ.ค.66 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ชิงทรัพย์โดยการขู่เข็ญว่าทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้ชิงทรัพย์นั้น ในเวลากลางคืน โดยมอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป เพื่อให้พ้นการจับกุม”
สถานที่จับกุม แคมป์คนงาน ต.บางกระทึก อ.สามพราน จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2566 เวลา 07.30 น.
พร้อมตรวจยึด
1. รถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า สีเทา จำนวน 1 คัน
2. เสื้อยีนส์แขนยาว สีกรมท่า จำนวน 1 ตัว
3. เสื้อยืดแขนสั้น สีเทา จำนวน 1 ตัว
4. กางเกงยีนส์ขายาว จำนวน 1 ตัว
5. หมวกลายทหาร จำนวน 1 ใบ
6. รองเท้าแตะ จำนวน 1 คู่
7. รองเท้าผ้าใบ สีดำ จำนวน 1 คู่
8. อาวุธมีด ปลายแหลม จำนวน 1 เล่ม
พฤติการณ์ จากกรณีเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ที่มีเหตุคนร้ายก่อเหตุอุกอาจ ใช้อาวุธมีด ปลายแหลมจี้ชิงทรัพย์พนักงานร้านสะดวกซื้อในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ต่อเนื่องในพื้นที่ อ.เมืองสรวง จ.ร้อยเอ็ด ได้เงินสดไปจำนวนหนึ่งก่อนจะขับขี่รถยนต์กระบะหลบหนีไป เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความหวาดกลัวให้แก่พนักงานร้านสะดวกซื้อ และประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงเป็นอย่างมาก ซึ่งภายหลังทางผู้เสียหายได้มีการร้องขอให้ทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ช่วยสืบสวนติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กก.๓ บก.ป. จึงได้ลงพื้นที่ทำการสืบสวน พร้อมกับประสานข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น และ สภ.เมืองสรวง จ.ร้อยเอ็ด จนกระทั่งทราบข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 เวลาประมาณ 02.00 น. ได้มีคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 4๐-50 ปี รูปร่างสันทัด แต่งกายมิดชิด สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ใส่หมวกลายพราง และสวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า เดินเข้ามาในร้านสะดวกแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น หลังจากนั้นคนร้ายได้พุ่งตรงเข้ามาที่เคาน์เตอร์พนักงาน ก่อนจะใช้มีดปลายแหลมจี้ไปที่พนักงานร้านสะดวกซื้อ ขู่ให้นำเงินสดมาให้ ซึ่งทางพนักงานเกิดความหวาดกลัวจึงได้นำเงินสดในลิ้นชักเคาน์เตอร์มอบให้คนร้าย หลังจากนั้นคนร้ายจึงได้วิ่งไปขึ้นรถยนต์กระบะและขับหลบหนีไป
ซึ่งต่อมาในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 04.00 น. คนร้ายได้ขับรถยนต์กระบะคันเดิม เข้ามา ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์พนักงานร้านสะดวกซื้อ ที่ ต.หนองผือ อ.เมืองสรวง จ.ร้อยเอ็ด ในลักษณะเช่นเดียวกัน โดยคนร้ายได้เงินไปจำนวนหนึ่ง และได้ขับขี่รถกระบะคันเดิมหลบหนีไป
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้ทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว คือ นายจำเนียรฯ อายุ ๔๔ ปี โดยพฤติการณ์ภายหลังจากที่นายจำเนียร์ฯ ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ไปแล้ว นายจำเนียรฯ ได้ขับรถยนต์กระบะหลบหนีไปในระยะทางกว่า 3๑๕ กม. ซึ่งในระหว่างทางในการหลบหนี นายจำเนียรฯ ได้มีการเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนรถ และเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่ออำพรางตัว หลังจากนั้นนายจำเนียรฯ ได้หลบหนีมาทำงานเป็น ผู้รับเหมาก่อสร้างรายย่อย ที่ ต.บางกระทึก อ.สามพราน จ.นครปฐม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยาน หลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว พร้อมกันนี้ยังได้มีการขอหมายค้นเพื่อทำการเข้าตรวจค้นหาพยานหลักฐาน และของกลางที่น่าจะเกี่ยวข้องทางคดี
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้นำกำลังเข้าทำการตรวจค้นพื้นที่ 2 จุด ในพื้นที่ จ.นครปฐม และ จ.ศรีสะเกษ โดยสามารถจับกุมตัวนายจำเนียรฯ ได้ที่ ต.บางกระทึก อ.สามพราน จ.นครปฐม พร้อมตรวจยึดของกลางรถยนต์กระบะ และเสื้อผ้าที่ใช้ในวันก่อเหตุ โดยในส่วนของอาวุธมีดที่น่าเชื่อว่าผู้ต้องหาใช้ในการก่อเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดได้ที่บ้านพักของภรรยาผู้ต้องหาในพื้นที่ อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ ภายหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสรวง จ.ร้อยเอ็ด ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป