วันที่ 29 ตุลาคม 2566 ที่สโมสรตำรวจ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวช หรือ”กัน จอมพลัง” พร้อมด้วยผู้หญิงอายุ 28 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหายมาพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เพื่อขอให้ช่วยเหลือ หลังได้หลบหนีมาขอความช่วยเหลือซึ่งถูกแฟนที่เป็นลูกทหารคบกันได้ 3 เดือน กักขัง และทำร้ายร่างกาย ใช้ท่อนเหล็ก และสากกะเบือฟาดที่ลำตัว และศีรษะ กระทืบชกต่อย จนกระดูกโหนกแก้มแตก ซี่โครงร้าว หลังจากคบไปสักพักมาบอกผู้เสียหายว่าเป็นพ่อค้ายา และบังคับให้ไปส่งยาและเอาเงินที่ค้ายามาให้ ถ้าไม่ทำตามก็จะถูกซ้อมทำร้าย และฝ่ายชายขู่ว่าถ้าเอาเรื่องไปบอกใคร ก็จะฆ่าทั้งครอบครัว ซึ่งฝ่ายชายเป็นคนกว้างขวางรู้จักคนเยอะ ผู้เสียหายจึงเกรงกลัวจะไม่ปลอดภัย
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2546 เวลากลางคืน นายยงยุทธ ฯ และเพื่อน ได้นั่ง ดื่มสุราอยู่ที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ต่อมา นายยงยุทธฯ กับพวก ได้พบกับกลุ่มวัยรุ่นคู่อริ และได้เกิดการทะเลาะวิวาท มีปากเสียงกันขึ้น ก่อนที่เพื่อนของนายยงยุทธฯ จะใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิงถูก คู่อริที่ท้องจํานวน 1 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นทั้งคู่จึงได้หลบหนีไปด้วยกันด้วยรถจักรยานยนต์ โดยมีนาย ยงยุทธฯ เป็นผู้ขับขี่
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตํารวจสอบสวน สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลาได้รวบรวมพยานหลักฐานกระทั่ง ศาลออกหมายจับนายยงยุทธฯ และเพื่อน รวม 2 คน ซึ่งเพื่อนของนายยงยุทธฯ ได้ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้แล้ว เหลือแต่นายยงยุทธฯ ผู้ต้องหารายนี้ที่ยังคงอยู่ระหว่างการหลบหนี
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตํารวจกองปราบปราม สืบสวนและติดตามจับกุมไว้ได้ดังกล่าว ก่อนนําตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ ดําเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
สอบถามคําให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่าร่วมกับเพื่อนก่อเหตุยิงคู่อริได้รับบาดเจ็บจริง โดยหลังจากหนีออกมาจากบริเวณที่เกิดเหตุด้วยกันแล้วก็ได้แยกย้ายกันหลบหนี โดยนายยงยุทธฯ หลบหนีการ จับกุมไปอยู่ในหลายพื้นที่ได้แก่นครศรีธรรมราช ภูเก็ต ชลบุรี เพื่อรอคดีขาดอายุความ เมื่อเห็นว่าใกล้จะขาดอายุ ความและน่าจะไม่มีเจ้าหน้าที่ตํารวจติดตามแล้ว จึงได้กลับมาหางานทําอยู่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ก่อนจะ มาถูกจับกุมตัวได้ ก่อนที่คดีจะขาดอายุความเพียง 5 วัน โดยใช้เวลาหลบหนีนานถึง 19 ปีกว่า
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตํารวจกองปราบปราม สืบสวนและติดตามจับกุมไว้ได้ดังกล่าว ก่อนนําตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ ดําเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
สอบถามคําให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่าร่วมกับเพื่อนก่อเหตุยิงคู่อริได้รับบาดเจ็บจริง โดยหลังจากหนีออกมาจากบริเวณที่เกิดเหตุด้วยกันแล้วก็ได้แยกย้ายกันหลบหนี โดยนายยงยุทธฯ หลบหนีการ จับกุมไปอยู่ในหลายพื้นที่ได้แก่นครศรีธรรมราช ภูเก็ต ชลบุรี เพื่อรอคดีขาดอายุความ เมื่อเห็นว่าใกล้จะขาดอายุ ความและน่าจะไม่มีเจ้าหน้าที่ตํารวจติดตามแล้ว จึงได้กลับมาหางานทําอยู่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ก่อนจะ มาถูกจับกุมตัวได้ ก่อนที่คดีจะขาดอายุความเพียง 5 วัน โดยใช้เวลาหลบหนีนานถึง 19 ปีกว่า