หนุ่มร้อง สายไหมฯถูกกลุ่มชายหัวร้อน ควงปืน บุกมาตามหาเมียที่บ้านแต่ไม่เจอ ก่อนไล่กราดยิงและทำร้ายร่างกายตนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ไปแจ้งความเดือนกว่าแต่คดีไม่คืบ
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด รับเรื่องร้องเรียนจากนายนัท อายุ 34 ปีว่า ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์หัวร้อน ควงปืนบุกมาตามหาเมียที่บ้านแต่ไม่เจอ ก่อนจะไล่กราดยิงและทำร้ายร่างกายตนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ไปแจ้งความเดือนกว่าแต่คดีไม่คืบหน้า ยังจับคนร้ายไม่ได้
โดยผู้เสียหายเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา กลุ่มผู้ก่อเหตุนำโดยนายปอนด์ นายเน่า นายเนม และนายเบียร์ ขี่รถจักรยานยนต์เดินทางมาหาตนที่บ้านในซอยจรัญสนิทวงศ์ 72 เพื่อถามหาคนชื่อก้อย ซึ่งก้อยเป็นน้องสาวของแฟนเก่าตนและก้อยเป็นแฟนนายปอนด์ โดยตนได้ปฏิเสธกับกลุ่มนายปอนด์ไปว่าไม่พบก้อย เพราะตนเลิกรากับแฟนเก่าไปแล้ว จึงไม่รู้ว่าก้อยอยู่ไหน พร้อมร้องขอให้กลุ่มผู้ก่อเหตุใจเย็น ๆ เนื่องจากเห็นว่านายปอนด์ชักอาวุธปืนขึ้นมา จึงพยายามพูดเกลี้ยกล่อม เพราะมีเด็กอยู่ในพื้นที่ด้วย
ทว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ยอมหยุดแล้วกรูเข้ามาทำร้ายตนตามที่ปรากฏในภาพวงจรปิด โดยนายปอนด์เป็นผู้ชักอาวุธปืนยิงใส่ นายนัทอ้างว่า ตนไม่เคยรู้จักกับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาก่อน ทราบแต่เพียงแค่ว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นสมาชิกเก่าของแก๊งโอรสและมีประวัติถูกดำเนินคดีติดคุกมาหลายครั้ง โดยเฉพาะนายปอนด์เพิ่งออกจากคุกเนื่องจากทุนดำเนินคดีข้อหายาเสพติดและพกพาอาวุธปืน
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ตนได้รับบาดเจ็บบริเวณขาทั้งสองข้าง เพราะถูกกระสุนยิงเข้าขาซ้าย 2 นัด ทะลุขาขวา 1 นัด ขาข้างซ้ายกระดูกแตกและเพิ่งผ่าตัดเอากระสุนออกเมื่อวานนี้ อีกทั้งยังได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่สามารถเดินได้สะดวก ทั้ง ๆ ที่ตนเป็นเสาหลักของครอบครัวคอยทำมาหากินเลี้ยงลูก
โดยสาเหตุที่ตนมาร้องเรียนเพจสายไหมต้องรอด เพราะรู้สึกวิตกกังวลในเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากยังพบว่า หนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุคือนายเน่า ยังคงมาวนเวียนอยู่บริเวณบ้าน รวมทั้งมาถามหาตนผ่านลูกสาว เลยทำให้ตนกังวลในเรื่องของความปลอดภัยของลูกด้วย
นอกจากนี้ ตนยังรู้สึกติดใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเนื่องจากว่า ในวันเกิดเหตุมีผู้ก่อเหตุถึง 4 คน แต่ทำไมตำรวจถึงออกหมายจับเพียงแค่ 2 คนในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า คือนายเน่าและนายปอนด์ โดยนายเน่าได้เข้ามามอบตัวกับตำรวจและได้รับการประกันตัวเป็นที่เรียบร้อย เหลือแต่นายปอนด์ มือยิงที่ยังหลบหนีอยู่ ทั้งที่ทั้งตำรวจได้รู้ตัวว่า นายปอนด์อยู่ที่ไหน อย่างไร
ตนตั้งข้อสังเกตว่า ตำรวจน่าจะรู้จักกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ เนื่องจากมีเพื่อนได้ยินว่าตำรวจโทรศัพท์พูดคุยกับนายปอนด์ด้วยท่าทีที่หัวเราะ ไม่มีลักษณะของการเกลี่ยกล่อมให้เข้ามามอบตัวแต่อย่างใด
ด้านนายเอกภพเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการประสานกับทาง ผกก.สน.บางพลัด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางตำรวจอยู่ในระหว่างการติดตามตัวจับกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งตนต้องการให้พนักงานสอบสวนขยายผลว่า แล้วผู้ก่อเหตุอีก 2 รายที่ปรากฏในภาพวงจรปิด มีส่วนรู้เห็นในทางคดีหรือไม่ หากมีส่วนรู้เห็นก็อยากให้นำตัวมาดำเนินคดี อีกทั้งอยากให้สอบสวนข้อเท็จจริงว่า ตำรวจรู้จักกับกลุ่มผู้ก่อเหตุจริงหรือไม่ เพราะเกรงว่าจะทำให้ผู้เสียหายไม่ได้รับความเป็นธรรม
อีกทั้งตนขอฝากถึง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตํารวจนครบาล หรือผู้การจ๋อ สืบนครบาล ให้มาช่วยในการสืบสวนสอบสวนตามล่าคนร้ายมาดำเนินคดี เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมอุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และกระทำความผิดมาแล้วหลายครั้ง
