นอนคุก! ทายาท แหนมดอนเมือง โกงเงิน พบเป็นหลานสาวแท้ ๆ เจ้าของบริษัท ทำหน้าที่ดูแลด้านการเงินฯ ให้บริษัท ก่อนถ่ายเททรัพย์สิน เสียหายกว่า 4 ร้อยล้านบาท
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.,
พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย, พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.2 บก.ป., ว่าที่ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร, พ.ต.ท.นพรัตน์ คำมาก, พ.ต.ท.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล, พ.ต.ท.สิทธิพร มีอาษา รอง ผกก.2 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม/ตรวจค้น นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.กรพงศ์ วงษาลังการ, พ.ต.ต.อัครวุฒิ จันทร์เจริญ, พ.ต.ต.เอื้ออังกูร ชินโชติธีรนันท์, พ.ต.ต.วรัท เสริมสุจริต, พ.ต.ท.สรศักดิ์ แสงจันทร์ สว.กก.2 บก.ป., พ.ต.ต.สันติชัย
ศรีสวัสดิ์ สว.กก.3 บก.ป., เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 และ กก.3 บก.ป. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ ปปง.
ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา ดังนี้
1.) น.ส.นภษร หรือไข่มุก อายุ 39 ปี ตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 2063/2567 ลง 7 พ.ค.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง หรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้างในเวลกลางคืน, ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน และเป็นการกระทำเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้เพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกถอนเงินสด, ฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน”
สถานที่จับกุม บริเวณภายในวัดชัยเภรีย์ ต.พลับพลาไชย อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
2.) นายธชธร อายุ 41 ปี ตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 2064/2567 ลง 7 พ.ค.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฟอกเงิน”
สถานที่จับกุม บริเวณภายในวัดชัยเภรีย์ ต.พลับพลาไชย อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
สรุปรายการของกลาง
1. เงินสด (ไทยและ ตปท.) 14 รายการ (มูลค่า 3,848,640 บาท)
2. นาฬิกาข้อมือ 35 รายการ
3. โฉนดที่ดิน 34 รายการ
4. โลหะคล้ายทองคำ 59 รายการ (540 บาท)
5. วัตถุมงคล/พระเครื่อง 247 รายการ
6. สมุดบัญชี/กองทุน 19 รายการ
7. เครื่องประดับ 104 รายการ
8. เครื่องแต่งกาย 129 รายการ
9. กระเป๋าแบรนด์เนม 36 รายการ
10. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 7 รายการ
11. รถยนต์และจักรยานยนต์ หรู 5 รายการ
12. กรมธรรม์ 62 รายการ
13. อื่นๆ 29 รายการ
รวมทั้งหมด 780 รายการ มูลค่ากว่า 250 ล้านบาท
พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณปี 2566 บริษัทแปรรูปแหนมชื่อดังย่านดอนเมือง ได้รับแจ้งจาก
บริษัทฯ คู่ค้าว่า ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย เนื่องจากยังไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากบริษัทฯ ประกอบกับผู้บริหารของบริษัทฯ ตรวจพบว่าเกิดความผิดปกติของสถานะการเงินและการบัญชีของบริษัทฯ จึงคาดว่าบริษัทฯน่าจะถูกโกง จึงได้เข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป.
ต่อมา กก.2 บก.ป. ได้ทำการสืบสวนสอบสวน รวบรวมหลักฐานพบว่า น.ส.นภษรฯ ซึ่งเป็นหลานแท้ๆของเจ้าของบริษัทฯ ทำหน้าที่ดูแลด้านการเงินและการบัญชี บัญชีรายรับ-รายจ่าย เป็นผู้ลักเอาเงินของบริษัทฯไป โดยมีวิธีการกระทำความผิดใน 2 ลักษณะ คือ
1. นำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (เอทีเอ็ม) บัญชีของบริษัทฯ ซึ่งเจ้าของบริษัท มอบให้ น.ส.นภษรฯ ถือไว้เพื่อนำไปใช้จ่ายให้แก่บริษัท โดยโอนเงินผ่านบัตร ATM เข้าบัญชีธนาคาร ของ น.ส.นภษรฯ
2. นำเช็คระบุจ่ายสด ซึ่งออกโดยบริษัทฯ เพื่อชำระค่าสินค้าแก่คู่ค้าของบริษัท โอนเข้าบัญชีธนาคาร
ของ น.ส.นภษรฯ
จากการตรวจสอบย้อนหลังพบว่า น.ส.นภษรฯ ได้เริ่มกระทำความผิดตั้งแต่ ช่วงปี 2556 – 2566 โดยได้มีการทุจริตลักเอาเงินของบริษัทฯ ไปกว่า 1,000 ครั้ง นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. ได้มีการร่วมตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างละเอียดกับฝ่ายบัญชีของบริษัทฯ ว่ามีรายการใดที่ น.ส.นภษรฯ ได้ทุจริต หรือลักเงินของบริษัทฯ ไป
หรือมีรายการใด ที่ได้นำไปจ่ายให้แต่บริษัทฯ คู่ค้าจริง จนพบว่าเงินที่ น.ส.นภษรฯ ได้ทุจริตไป มีจำนวนกว่า 396,229,584 บาท และถูกยักย้าย ถ่ายเถเงิน แปลงสภาพเป็นทรัพย์สินต่างๆ เช่น ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ รถยนต์หรู ทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ จำนวนหลายรายการ
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา
ทั้งสองราย พร้อมขออนุมัติศาลจังหวัดปทุมธานี, ศาลจังหวัดธัญบุรี, ศาลจังหวัดนครนายก และศาลจังหวัดสีคิ้ว (ปากช่อง) ออกหมายค้นเพื่อทำการตรวจค้นสถานที่ที่เกี่ยวข้องจำนวน 7 จุด แบ่งเป็นพื้นที่จังหวัดปทุมธานี 5 จุด, จังหวัดนครนายก 1 จุด และ จังหวัดนครราชสีมา 1 จุด
กระทั้งเมื่อวันที่ 8 พ.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้นำกำลังเข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองราย ตรวจค้นสถานที่ตามหมายค้น สามารถตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด จำนวน 780 รายการ มูลค่ากว่า 250 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดไว้ พร้อมนำตัวผู้ต้องหาและของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. ดำเนินคดี
ตามกฎหมาย และจะดำเนินการตามกฎหมายฟอกเงินต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น น.ส.นภษรฯ และ นายธชธรฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
