Raider Reporter

ยายวัย 75 ปี น้ำตานอง ถูกทวงหนี้โหดตบ ด้วยโทรศัพท์มือถือ ขณะขายข้าวไข่เจียวอยู่ที่ร้าน ด้านรองผู้การนนท์ เผยรู้ตัวคนก่อเหตุแล้ว คาดได้ตัวในเร็ววันนี้

แชร์

ยายวัย 75 ปี น้ำตานอง ถูกทวงหนี้โหดตบ ด้วยโทรศัพท์มือถือ ขณะขายข้าวไข่เจียวอยู่ที่ร้าน ด้านรองผู้การนนท์ เผยรู้ตัวคนก่อเหตุแล้ว คาดได้ตัวในเร็ววันนี้

จากกรณี นางสุพัตรา หรือยายสุข จรดี อายุ 75 ปี อาชีพ แม่ค้าขายข้าวไข่เจียว เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ หลังจากเมื่อเวลา 13.00 น.ขณะขายข้าวไข่เจียวอยู่ที่ร้านบริเวณอาคารบางใหญ่ซิตี้ ตึก B ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ถูกชายไม่ทราบชื่อ 2 คน ขับรถกระบะไม่ทราบยี่ห้อสีขาวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาจอดที่หน้าร้านก่อนจะเดินเข้ามาทวงเงินที่หน้าร้าน และใช้โทรศัพท์มือถือตบเข้าที่หน้าอย่างแรง 1 ครั้งจนฟกช้ำ และกระชากเสื้อจนล้มลง พร้อมท้าให้ไปแจ้งความที่โรงพักและพยายามจะดึงตัวยายสุขขึ้นรถ แต่ยายสุขขัดขืนไม่ยอมืขึ้นรถไปกับชายคนดังกล่าวเพราะกลัวว่าจะถูกพาไปทำร้ายที่อื่น ก่อนชายคนดังกล่าวจะพังข้าวของที่ร้านจนเละเทะ และถ่มน้ำลายใส่ พร้อมข่มขู่ว่าถ้าเปิดร้านอีกก็จะเข้ามาพังร้านอีก
นางสุพัตราหรือยายสุข เล่าว่า ตนเคยไปกู้เงินนอกระบบมาจำนวน 5,000 บาท ส่งดอกลอย กับคนชื่อก้อง ตั้งแต่ช่วงเดือน เม.ย. 2566 โดยจ่ายค่าดอกเบี้ยอย่างเดียววันละ 100 บาทไม่รวมเงินต้น และได้ส่งดอกทุกวันมาตลอดหลายเดือน จนกระทั่งเมื่อช่วงเดือน พ.ย.- ธ.ค.ของปีที่แล้วไม่แน่ใจว่าเดือนไหนเพราะจำไม่ค่อยได้ เขามีโครงการประนอมหนี้ ตนจึงได้นัดกับทางเจ้าหนี้ไปที่ศูนย์ดำรงธรรมเพื่อขอให้เขายกเลิกดอกเบี้ยให้ และจะขอจ่ายเงินต้นเพราะที่ผ่านมาตนก็จ่ายดอกทุกวันรวมๆแล้วก็เกือบ 20,000 บาท แต่ทางเจ้าหนี้ไม่ยอมมาตกลงกัน และไม่ได้เข้ามาเก็บเงินตั้งแต่นั้นมา ตนจึงไม่ได้ส่งดอกตั้งแต่ช่วงนั้นเป็นต้นมา จนมาเมื่อช่วงบ่ายโมงวันนี้ ก็มีผู้ชาย2คนขับรถกระบะสีขาวมาจอดที่หน้าร้านและเดินเข้ามาถามว่าต้องการเงินไหม แต่เขามองหน้าตนและบอกว่าหน้าคุ้นๆ เลยโทรหาใครก็ไม่รู้ให้ช่วยเช็ค แล้วเขาก็บอกว่าตนเคยกู้เงินจากเขาไปแล้วรอบนึง และบอกว่าตัวเขาเป็นเจ้าของเงินที่ตนไปกู้มา แล้วเขาก็เดินเข้ามาในร้านค้นกระเป๋า เอามือล้วงเข้าไปในเอี้ยมตนเพื่อหาเงิน ตนก็บอกแล้วว่าไม่มีๆ เขาก็ไม่ยอมหยุด แล้วก็เอาโทรศัพท์มือถือตบเข้ามาที่หน้าตน1ครั้ง และกระชากเสื้อบอกว่าไปเจอกันที่โรงพัก และพยายามจะลากไปขึ้นรถแต่ตนกลัวจึงบอกไปว่าเดียวไปเอง เพราะไม่รู้ว่าเขาจะพาไปโรงพักจริงรึเปล่าหรือจะพาไปที่อื่นก็ไม่รู้ ซ้ำยังเดินไปหน้าร้านทำลายข้าวของและถุยน้ำลายใส่ข้าวที่วางขายอยู่หน้าร้านซึ่งตอนนั้นก็มีลูกค้านั่งกินข้าวอยู่ และยังข่มขู่อีกว่าถ้าไม่ได้เงินวันไหนเปิดร้านก็จะเข้ามาพังร้านอีก
“ทุกวันนี้ตนต้องหาเงินเลี้ยงลูกชาย อายุ 50 ปี ที่พิการขาขวาขาดเพียงลำพัง บางวันขายของได้ไม่ดี ก็ยอมรับว่ามีไปกู้เงินเจ้าอื่นๆอีกหลายเจ้า แต่เจ้าหนี้คนอื่นเขาเข้าใจ ให้ส่งวันละ 20-50 บาท วันไหนเราไม่มีเราก็บอกเขา เขาก็เข้าใจไม่เคยมาหาเรื่องหรือมาทำลายข้าวของแบบนี้ ทุกวันนี้รายจ่ายหลายทางทั้งค่าห้อง ค่าน้ำค่าไฟ ค่าเช่าร้าน แต่ตนก็ไม่เคยคิดหนีแต่อย่างใดก็พยายามหาเงินมาใช้หนี้ให้ครบทุกคน แต่ถ้าเขาอยากได้ชีวิตตนก็ยินดียกให้เพราะตนก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว”
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ 8 พฤษภาคม 67 เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบที่ร้านนางสุพัตราหรือยายสุข ซึ่งในวันนี้ คุณยายยังคงเปิดร้านขายข้าวไข่เจียวตามปกติ เลยยายสุขได้กล่าวเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตาว่า ตนไม่สามารถปิดร้านได้ เพราะต้องหาเงินเลี้ยงลูกชายที่พิการนอนติดเตียง แม้รายได้จะมีมากหรือน้อยก็ต้องหาเพื่อส่งดอกเงินกู้ให้เพียงพอ ถ้าหากเขาจะกลับมาทำร้ายอีกยายก็ทำใจ จะเอาชีวิตยายไปยายก็ยอม ยายยอมรับว่าที่ผ่านมากู้เงินนอกระบบ 10 กว่าเจ้า มีหลายเจ้าที่เห็นใจและสงสาร ก็ให้ยายผ่อนและอะลุ่มอล่วยเสมอมา มีเพียงเจ้านี้ซึ่งยายเองก็กู้มาจากคนชื่อก้อง ซึ่งตัวคนให้กู้ก็ไม่มีปัญหาอะไรหายไปนานเลย จนกระทั่งลูกน้องของเขามาทำร้ายยายเมื่อวานสองคน ตามที่เป็นข่าว ยายก็รู้สึกกลัวที่มาขายของวันนี้ ตอนนี้ทุนก็หายกำไรก็หดแต่ก่อนเคยขายกับข้าวหลายอย่างก็มาเหลือเพียงแค่ข้าวไข่เจียวเท่านั้น อยากขอความสงสารและเห็นใจจากเขาบ้างอย่ามาทำแบบนี้กับยายเลย
ขณะที่ห้องประชุม ของ สภ.บางใหญ่ พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี พ.ต.ท.กรณรงค์ ศุภนันทนานนท์ รองผกก.สส.สภ.บางใหญ่ พร้อมชุดสืบสวนร่วมกันประชุมถึงความคืบหน้าของคดี ใช้เวลาประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น โดย พ.ต.อ.สมพล เผยว่า คดีนี้คนก่อเหตุก่อเหตุอุกอาจทำร้ายแม้กระทั่งคนแก่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจสอบสวนเจ้าทุกข์รวมทั้งพยาน รอบข้างจนคดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว เรารู้ตัวคนก่อเหตุแล้วอยู่ระหว่างติดตามตัว มาดำเนินคดี คาดว่าจะได้ตัวในเร็ววันนี้ ส่วนยายสุขนั้นตนได้สั่งการให้ชุดสืบสวนและงานป้องกันปราบปราม สภ.บางใหญ่ หมั่นตรวจตราดูแลให้ความคุ้มครองกับยายสุข โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการพูดคุย และให้ข้อแนะนำ กับยายสุข เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการทำมาหากิน ยายเองก็มีกำลังใจที่ดี และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมาก แต่คดีนี้ขอเวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานสักพัก หากได้ตัวคนก่อเหตุมาก็จะแจ้งข้อหาดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกาย และ พ.ร.บปล่อยเงินกู้โดยผิดกฎหมาย ทันที

Raider-Reporter.com ข่าวไรเดอร์รีพอร์ตเตอร์ เกาะติดข่าวล่าสุด ทุกเหตุการณ์ ข่าวสังคมการเมือง ข่าวอาชญากรรม ข่าวด่วนวันนี้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Raider Reporter

เกาะติดข่าวล่าสุด ทุกเหตุการณ์ ข่าวสังคมการเมือง ข่าวอาชญากรรม ข่าวด่วนวันนี้

Related Posts

CHANGE LANGUAGE
Powered by
Raider Reporter
เกาะติดข่าวล่าสุด ทุกเหตุการณ์ ข่าวสังคมการเมือง ข่าวอาชญากรรม ข่าวด่วนวันนี้
Raider Reporter Channel
raider-reporter.com ข่าวไรเดอร์รีพอร์ทเตอร์ เกาะติดข่าวล่าสุด ทุกเหตุการณ์ ข่าวสังคมการเมือง ข่าวอาชญากรรม ข่าวด่วนวันนี้ ข่าวตํารวจ ข่าวด่วน ข่าวนครปฐม

RAIDER REPORTER