พระพยอมเผยพระล่าสัตว์ป่าไม่มีสติสัมปชัญญะไม่รักษาศีล 5
จากกรณีที่นายวิชานนท์ แสนผาลา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ทุ่งกระมัง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ นำทีมเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมแก๊งล่าสัตว์ป่าพบว่าผู้ต้องหาเป็นพระและสามเณร ส่วนที่หลบหนีไปได้เป็นพระระดับรองเจ้าคณะจังหวัดวัดแห่งหนึ่ง
เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสอบถามพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กรณีดังกล่าวว่าเหมาะสมหรือไม่
พระพยอม กล่าวว่า ตามที่เจ้าหน้าที่ป่าอุทยานบอกว่าพระตั้งกลุ่มแก๊งค์ไม่ได้ไปธุดงค์มีการตัดชิ้นส่วนสัตว์ใส่ย่าม แบบนี้แก้ตัวไม่ขึ้นเป็นที่ลำบากใจของผู้ที่แต่งตั้งให้สมณศักดิ์ให้ยศแต่แล้วเอายศไปตั้งความอัปยศ ให้เสื่อมเสียในฐานะรองเจ้าคณะจังหวัดซึ่งควรจะเป็นต้นแบบเป็นตัวอย่างที่มีเมตตาไม่ใช่ไปล่าสัตว์ไปรังแกสัตว์ บอกว่ารักษาศีล 5 ไม่ทำร้ายสัตว์ไม่เบียดเบียนสัตว์ไม่ประทุษร้าย ไปทำซ้ำซากทำย่ามใจไม่นึกถึงธรรมวินัย เป็นพระสวดมนต์กันอยู่ทุกวันไม่พูดร้ายไม่ทำร้าย แต่นี้กลับไปทำร้ายสัตว์แล้วอ้างว่าไปธุดงค์ การธุดงค์ต้องมีลักษณะน่าเชื่อถือคือไปขูดเกลากิเลส แต่นี้ไปเป็นกลุ่มเป็นก้อนมีมหาเปรียญเรียกว่าหมดสารรูป ถ้าไม่ผิดจะหนีทำไมถ้าปล่อยไว้สัตว์ป่าจะมีอะไรเหลือใครจะคุ้มครองเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่รัฐต้องติดตามต้องปรามให้อยู่มิฉะนั้นจะย่ามใจไปรอบ 2 รอบ 3 อีก ทำให้สัตว์บาดเจ็บล้มตาย บวชแล้วไม่กลัวบาปไม่มีสติ สัมปชัญญะ ผิดถูกชั่วดีการทำลายสัตว์ป่ามีกฎหมายทารุณกรรมสัตว์เตะหมาตัวนึงยังดำเนินคดีได้ คงต้องรับกรรมไปตามที่ตัวเองทำ ฝากประชาชนให้แยกแยะเรื่องพระที่ทำแบบนี้ มีมานานสมัยพระพุทธเจ้าก็มี มีตำแหน่งขนาดนี้แอบไปล่าสัตว์พึ่งได้ยินครั้งแรก