‘คดีเป้รักผู้การ’บาน!ขยายเวลาสรุปสำนวนส่งฟ้อง เจอผู้ต้องหาเพิ่มนับ 10 ราย
พลตำรวจโทอัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีอดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรชลบุรีรีดทรัพย์เว็บพนันออนไลน์ 140 ล้านบาท เปิดเผยว่า วันนี้คณะพนักงานสอบสวนทั้งตำรวจและอัยการได้ประชุมเพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของสำนวนการสอบสวนในคดีนี้ที่ได้ดำเนินการมาแล้วกว่า 80 วัน โดยได้มีการสอบปากคำพยานไปแล้ว 200 กว่าปาก แต่เนื่องจากมีผู้ต้องหาที่ยื่นขอให้ตรวจสอบพยานบุคคลและพยานเอกสารในคดีเพิ่มเติม ทำให้ต้องขยายระยะเวลาออกไป จากกำหนดการเดิมที่คาดว่าจะสรุปสำนวนการสอบสวนให้แล้วเสร็จภายในกลางเดือนเมษายนนี้ แต่ยืนยันว่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งอัยการสั่งฟ้องได้ภายในไม่เกินเดือนพฤษภาคมนี้อย่างแน่นอน
ด้านนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ในฐานะหัวหน้าชุดคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน เปิดเผยว่า สาเหตุที่ล่าช้าออกไป เนื่องจากพยานเอกสารและบุคคลมีจำนวนมาก ผู้ต้องหาเกือบทั้งหมดทั้งอดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีและผู้ต้องหาที่เป็นพลเรือนได้นำพยานบุคคลเข้ามาเพิ่ม ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับไปดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงได้ไปสอบปากคำที่จังหวัดชลบุรีด้วยเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้หมดระยะเวลาการยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติมแล้ว จากนี้เป็นขั้นตอนสุดท้ายที่คณะพนักงานสอบสวนจะสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเอง แต่ยังให้โอกาสกับพนักงานสอบสวนชุดเดิมที่จะยื่นพยานหลักฐานมาเพิ่มเติมด้วย
นายวัชรินทร์กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบยังพบว่ามีผู้ต้องหาในคดีเพิ่มเติมอีกกว่า 10 คน จากเดิม มีประมาณ 20 กว่าคนรวมแล้ว 34 คน ซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและพลเรือน ส่วนใหญ่มีส่วนในการจับผู้ต้องหามาและมีการกระทำให้ผู้เสียหายถูกกักขังควบคุมตัวตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ โดยขณะนี้การสอบพยานหลักฐานครบถ้วนแล้วเหลือเพียงการสอบเจ้าหน้าที่รัฐบางรายที่เกี่ยวข้องกับชุดที่แล้วเท่านั้น หลังจากนี้จะสรุปสำนวนให้เสร็จภายในเดือนเมษายน และส่งอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภายในภายในไม่เกินเดือนพฤษภาคมนี้อย่างแน่นอน