บิ๊กต่าย สั่งถอดบทเรียนคดีแก๊งตำรวจ หลังอุ้มเรียกค่าไถ่เงินชาวจีน ผ่านระบบอีวอลเล็ตเร่งติดตามตำรวจที่ยังหลบหนี
พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์หลังเดินทางไปเป็นประธานงานสถาปนากองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ครบรอบปีที่ 71 เมื่อช่วงเช้าวันนี้ว่า คดีแก๊งตำรวจอุ้มรีดทรัพย์นักธุรกิจชาวจีน ว่า เบื้องต้นจากที่ได้รับรายงานชุดสืบสวนนครบาล พบว่ามีผู้เกี่ยวข้องทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 10 คน โดยได้ออกหมายจับแล้ว 7 คน จับกุมแล้ว 5 คน ส่วนอีก 3 คนอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบตัวบุคคลเพื่อออกหมายจับ ซึ่งแก๊งนี้มีตำรวจเพียงแค่ 3 คนเท่านั้น และ 1 ในนั้นยังอยู่ระหว่างหลบหนี คือจ่าสิบตำรวจวีรยุทธ เพชรรัตน์ หรือ “จ่าแจ๊ค” สังกัดงานจราจร สน.พญาไท โดยยังไม่มีการประสานเข้ามอบตัวแต่อย่างใด แต่ยืนยันว่าคดีนี้ไม่มีการช่วยเหลือแน่นอน และชุดสืบสวนนครบาลกำลังสืบสวนติดตามตัวอย่างเข้มข้น เพราะถือเป็นผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ส่วนข้อกังวลว่าคดีนี้เป็นคดีสำคัญ และเกรงว่าตำรวจนายนี้จะคิดสั้นหรือไม่นั้น ตนเองยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐยอมรับว่าคดีดังกล่าวเป็นสิ่งที่ต้องถอดบทเรียน ทั้งด้านการข่าว การตรวจสอบข้อมูล การคัดกรองคนเข้าประเทศ ซึ่งได้กำชับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองให้เข้มข้นในการตรวจสอบประวัติบุคคลที่จะเข้าประเทศทั้งหมด และให้กำชับดูแลพฤติกรรมของผู้ใต้บังคับบัญชา เพราะคดีนี้ต้องถอดบทเรียนไปถึงปัจจัยพฤติการณ์การก่อเหตุ ทั้งก่อนและหลัง รวมถึงพฤติการณ์ที่มีการเรียกค่าไถ่ผ่านทางระบบอีวอลเล็ต ก่อนจะแปลงเป็นเงินไทย ซึ่งจะต้องนำไปศึกษาเพิ่มเติมให้ทันยุคสมัยที่เปลี่ยนไป และนำมาป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก