แม่ลูกสอง วัย 30 ปี ร่ำไห้ หลังถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงสูญเงินไปกว่า 2,800,000 บาท
หลังโดนหลอกออกอุบายเป็นลูกค้าชั้นดีได้รางวัลเป็นหม้อทอดไร้น้ำมัน ซ้ำถูกหลอกถ่ายคลิปเปลือยหน้าอกขู่ขายในโลกออนไลน์
จากกรณีแม่ลูกสองวัย 30 ปีเดินทางร้องทนายความหลังถูกหลอกจากมิจฉาชีพอ้างเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซชื่อดังว่าเป็นลูกค้าชั้นดีจะได้รางวัลเป็นหม้อทอดไร้น้ำมันฟรีก่อนให้แอด LINE เข้ากลุ่มร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือเด็กหมดเงินไปกว่า 2,800,000 บาท จากนั้นโดนหลอกซ้ำหลังมีมิจฉาชีพที่เป็นเสนอตัวช่วยเหลือเงินค่าดำเนินการ 1,400,000 บาท เพื่อปลดล็อคระบบเงินแต่ต้องถ่ายคลิปเปลือยท่อนบนมาแลกก่อนจะขู่แบล็คเมล์หากแจ้งตำรวจจะปล่อยคลิปลงขายในโซเชียลมีเดีย
นางสาวปลา นามสมมุติ เดินทางมาร้องทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม ให้ช่วยเหลือทางคดีโดยมอบหมายให้นายรภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน ทนายความ และรองประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม เป็นผู้ดูแลตัวคดีนี้ / โดยนางสาวปลาผู้เสียหายวัย 30 ปีได้หอบเอกสารหลักฐานทั้งข้อมูลการแชทหลอกให้โอนเงินบริจาคช่วยเหลือเด็กและหลักฐานแชทข่มขู่หลังโดนหลอกให้ถ่ายคลิปเปลือยท่อนบนมามอบให้กับทางทนายความ
นางสาวปลา เล่าให้คุณฆฤณ กมุทโยธิน ผู้สื่อข่าวสำนักช่าววันนิวส์ ฟังทั้งน้ำตาว่า ตัวเองมีอาชีพเป็นแม่ค้าขายอาหารตามสั่งออนไลน์ จนเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา โดนมิจฉาชีพ โทรศัพท์โดยใช้เบอร์ 02 ออกอุบายอ้างบริษัทอีคอมเมิร์ซชื่อดัง โทรมาว่าเธอเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัล ซึ่งตอนนั้นเชื่อเพราะตนก็เป็นลูกค้าของที่นี่อยู่แล้ว
โดยเนื้อหาที่มิจฉาชีพหลอก บอกว่า ตนเป็นสมาชิกชั้นดีได้รับสินค้าเป็นหม้อทอดไร้น้ำมันฟรี ก่อนให้แอดไลน์เข้ากลุ่ม และใช้กลยุทธ์หลอกให้ร่วมบริจาคเงินให้กับเด็ก ด้วยความที่ปกติแล้วตนเป็นคนขี้สงสารก็หลงเชื่อ แต่ก่อนที่จะหลงเชื่อแอดเข้ากลุ่มทางมิจฉาชีพบอกว่าจะขอที่อยู่และเลขบัญชีเพื่อที่จะโอนค่าเสียเวลาให้เป็นเงินจำนวน 50 บาท ซึ่งตอนนั้นก็ได้เงินมาจริงๆจึงได้ตัดสินใจแอดเข้ากลุ่ม / ทางมิจฉาชีพ ออกอุบายต่ออีกว่าอยากจะเชิญชวนให้ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือตอนนั้นตัวเองตัดสินใจโอนเงินไปหลักพัน ทางมิจฉาชีพก็แจ้งกลับมาว่ายอดเงินจำนวนนี้จะได้รับเงินคืนเพิ่มเติมจากยอดเดิมอีกเป็นเงินประมาณ 300 บาท ซึ่งก็มีเงินโอนกลับเข้าบัญชีตนเองมาจริงๆจำนวน 1300 บาทภายในเวลา 15 นาที // จากนั้นมิจฉาชีพออกอุบายต่อว่าหากแอดเข้ากลุ่มสมาชิกอีกหนึ่งกลุ่มที่เป็นกลุ่มเงินหลักหมื่นหลักแสนถ้าปันผลเวลาโอนเงินบริจาคช่วยเหลือเด็กก็จะได้จำนวนมากเพิ่มขึ้นตามจำนวนเงินที่โอนไป ตนเองจึงหลงเชื่อแอดเข้ากลุ่มและเริ่มโอนเงินหลักหมื่นจนไปถึงหลักแสนซึ่งแต่ละยอดเงินทางกลุ่มมิจฉาชีพก็จะส่งหน้าโปรโมชั่นมาว่าจะได้ค่าตอบแทนกลับไปมีทั้งเป็นสิ่งของ คือ สร้อยคอทองคำ โทรศัพท์ iPhone และเครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพดี ราคาหลักหมื่น แต่หากไม่สนใจได้เป็นสิ่งของก็จะได้กลับเป็นเงินตอนนั้นทำให้เธอหลงเชื่อจนโอนเงินสูงสุดเป็นเงินประมาณ 100,000 บาท และในเวลาประมาณ 25 นาทีก็มีเงินโอนกลับมาในบัญชีเป็นเงิน 130,000 บาท
นางสาวปลา ยอมรับว่าตอนนั้น หลงเชื่ออุบายของมิจฉาชีพกลุ่มนี้จนลืมเรื่องหม้อทอดไรน้ำมัน ประกอบกับเป็นคนขี้สงสารและอยากช่วยเหลือเด็กเพราะตนเองก็มีลูก 2 คนอายุ 9 ขวบและ 2 ขวบครึ่ง จึงเริ่มไปหยิบยืมเงินจากพี่ชายประมาณ 300,000 บาทโอนเข้าไปเพราะตอนนั้นเงินเก็บจากการขาย อาหารตามสั่งออนไลน์ของตัวเองหมดแล้ว จากนั้นกลุ่มมิจฉาชีพบอกว่าตนทำทุรกรรมด้านการเงินผิดพลาดจะต้องมีการปลดล็อคบัญชีตอนนั้นตัวเองทำอะไรไม่ถูกเพราะเงินที่โอนไปยอดตอนนั้นประมาณกว่า 500,000 บาทแล้วจึงมีการโอนเงินเข้าไปอีกรอบประมาณ 800,000 บาทแต่ทางกลุ่มมิจฉาชีพบอกว่าจะต้องมีการเสียภาษีให้สรรพากรด้วยรวมรวมแล้วเธอโอนเงินให้กลุ่มมิจฉาชีพไปทั้งหมด 2,800,000 บาท
นางสาวปลาเหล้าทั้งน้ำตาว่าถึงตอนนั้นตัวเองรู้สึกมืดแปดด้านต้องการอยากจะได้เงินจำนวนนั้นคืนมาให้เร็วที่สุดและมีการเข้าไปโวยวายพิมพ์ข้อความสอบถามเข้าไปในกลุ่มสมาชิกที่นั้นก็ยังมีการโอนสลิปเงินกันอย่างต่อเนื่องจนมีแอดมินหนึ่งคนแจ้งว่าเรื่องนี้ขอให้ไปคุยกันเป็นการส่วนตัวเป็นจังหวะเดียวกับที่มีมิจฉาชีพอีกหนึ่งคนที่อ้างตัวเสนอว่าอยากจะช่วยค่าดำเนินการ 1,400,000 บาทแต่แลก กับการถ่ายคลิปเปลือยท่อนบนส่งมาให้ / ตนยอมรับว่า ตอนนั้นตัวเองยอมทำโดยไม่บอกให้กับสามีรู้เพราะต้องการอยากจะได้เงินคืนจึงยอมถ่ายคลิปส่งไป แต่มิจฉาชีพคนนี้กลับบอกว่าขอบคุณสำหรับคลิปที่ถือว่า “ถือเป็นการทำบุญแล้วกัน” โดยไม่ได้มีการโอนเงินเข้ามาช่วยเหลือเธอ พร้อมยังขู่ว่าหากนำเรื่องนี้ไปแจ้งตำรวจจะนำคลิปเปลือยหน้าอกของเธอไปลงขายในโซเชียลมีเดีย มิหนำซ้ำ ยังมีผู้ที่คาดว่าอยู่ในขบวนการนี้ทักมาขอหลับนอนกับเธอด้วย
นางสาวปลา บอกว่าเธอเครียดจนเคยจะคิดสั้นเพราะว่าเธอทำประกันชีวิตอยู่หากเธอตายไปสามีและลูกก็จะได้เงินประกันและถึงขั้นที่อยากจะขายตัวเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ให้กับพี่ชายและแม่เพราะตอนนี้เธอไม่เหลือเงินเลย ลูกชายคนโตต้องกินข้าวบูด คนเล็ก ได้กินนมบ้างไม่ได้กินนมบ้างจึงอยากร้องขอความเป็นธรรมและให้ตำรวจช่วยดำเนินการเอากลุ่มมิจฉาชีพนี้มาดำเนินคดี
ด้านนายรภัสสิทธิ์ รองประธานมูลนิธิรณรงค์ฯ บอกว่า หลังจากนี้ตนเองจะพาผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีที่ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 (บก.สอท.2) ให้เร่งติดตามกลุ่มมิจฉาชีพมาดำเนินคดี รวมถึง บุคคลที่อ้างว่าจะนำคลิปของผู้เสียหายไปเผยแพร่ มาดำเนินคดีในข้อหานำเข้าสื่อลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แม้ว่าจะยังไม่มีคลิปปบ่อยในโซเชียลมีเดียแต่มีการข่มขู่ผู้เสียหาย โดยกรณีดังกล่าวดังกล่าวนี้จะต้องให้ทางตำรวจช่วยตรวจสอบพฤติกรรมว่าเข้าข่ายหลอกลวงผ่านระบบคอมพ์ และเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ / ในส่วนบัญชีม้าจะขอให้ตำรวจออกหมายเรียกบัญชีม้าทั้งหมดที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาดำเนินคดีด้วย โดยมีหลักฐานสลิปการโอนเงินที่ผู้เสียหายนำมามอบให้ระบุ
